ผู้สมัครงาน
เลือกช่องทางติดต่อ
อย่าปล่อยให้ตัวเองหมด Passion หรือหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) เพราะจะส่งผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อาทิ เหนื่อยล้าเรื้อรัง, ปวดหัว ,หมดหวัง, ท้อแท้ในการทำงาน หรือนอนไม่หลับ ถ้าไม่รีบแก้ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิต แล้วอาจเลือกทำสิ่งที่ไม่เหมาะเพื่อหนีความคับข้องใจด้วยครับ
เรามาเร่งหาวิธีแก้ในแต่ละสาเหตุของเรื่องนี้กันเลย ขอยกตัวอย่างจากกรณีส่วนใหญ่นะครับ
1 เพิ่งเริ่มงานใหม่ คิดว่าเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ : เป็นธรรมดาที่เรามักไม่กล้าเข้าหาเพื่อนใหม่ ยิ่งถ้าอายุต่างกันมาก ยิ่งยากไปใหญ่
วิธีแก้ อย่าเพิ่งคิดไปแง่ลบ ว่าเขาไม่อยากคุยหรือไม่ชอบเรา ถ้าไม่กล้าถามเรื่องงานและไม่รู้จะคุยอะไร อาจเริ่มด้วยเรื่องง่าย ๆ เช่น ถ้าจะไปซื้อหรือสั่งอะไรก็ถามเขาด้วย เช่น หนูจะสั่งกาแฟ พี่สั่งด้วยไหมคะ หรือถ้าเป็นไปได้ อาจซื้ออะไรเล็กน้อยมาฝากเขา จะได้มีบทสนทนากันและได้รู้จักกันมากขึ้นครับ
การเริ่มต้นอาจยาก แต่ถ้าไม่ลองเริ่มคุยสักที เราก็จะอยู่กับความรู้สึกเดิม ๆ แบบนี้ต่อไปนะครับ
2 เข้ากับเพื่อนในทีมไม่ได้ : ลองเข้าไปคุยด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว แต่เพื่อนในทีมไม่เปิดรับเราเลยจริง ๆ
วิธีแก้ ลองเข้าหาเพื่อนคนอื่นดูครับ เช่น แผนกอื่นที่นั่งบริเวณใกล้กันหรือคนที่เจอบ่อย อาจเริ่มที่ยิ้มให้แล้วถามชื่อ ถามว่าอยู่แผนกไหน จากนั้นการพูดคุยกันก็จะง่ายขึ้นครับ เวลาทำงานเราก็ตั้งใจทำในส่วนของเรา แต่เวลากินข้าว เวลาพักเบรกก็มาหาคนนี้ก็ได้ แต่ไม่ควรนำเรื่องในทีมมานินทา ไม่งั้นอาจเกิดปัญหาตามมา และเพื่อนใหม่อาจมองเราในแง่ลบได้ครับ
3 ไม่ชอบงานที่ทำ : เราอาจฝืนทำงานไปเพื่อให้พอมีรายได้ แต่อย่าพยายามฝืนต่อไปเลยครับ
วิธีแก้ ลองทำความรู้จักกับงานนั้นให้มากขึ้น หาเป้าหมายและวิธีการที่ทำให้งานนั้นสำเร็จ แล้วลงมือทำ แต่อย่ากดดันตัวเอง ว่าทำแล้วมันต้องสำเร็จเท่านั้น ต้องทดลองทำไปเรื่อย ๆ ให้เจอข้อผิดพลาดระหว่างทางแล้วนำมาแก้ไข โดยทดลองทำอีกครั้งต่อไป แล้วเราจะเจอความสำเร็จครับ
เช่น งาน Telesales ถ้าพูดตาม Script แล้วขายไม่ได้ แล้วยังทำแบบเดิมมันก็ไม่ได้อยู่ดี เราก็หมดไฟครับ ต้องกลับมาถามตัวเองว่า รู้จักสินค้ารึยัง ข้อดี? ข้อเสียคืออะไร? เหมาะกับใคร? ที่ผ่านมาตอบสิ่งเหล่านี้กับลูกค้ามากพอรึยัง? ถ้าเราเป็นลูกค้า เราชอบ Sales แบบไหน? อาจลองพูดคุยกับเพื่อนในทีมที่มีประสบการณ์ หรือสังเกตดูว่า เขามีวิธีการอย่างไร แล้วนำมาปรับใช้ก็ได้ครับ
แต่ถ้าทำทุกทางแล้ว มันไม่ไหวจริง ๆ ก็ลองหางานใหม่ที่เหมาะกว่าแล้วลองไปสัมภาษณ์ดูครับ ถ้าผ่านแล้วค่อยลาออก เพราะถ้าออกมาแล้วว่างงานนานกว่าที่คิด อาจทำให้เครียดหนักไปอีก
และระหว่างที่ยังต้องทำงานเดิม ทั้งช่วงหางานและช่วงได้งานแล้วกำลังรอออก (ซึ่งต้องทำต่ออีก 1 เดือน) ต้องให้กำลังใจตัวเองนะครับ คิดว่าเดี๋ยวก็ได้งานใหม่แล้ว ทนอีกหน่อย อย่างน้อยที่นี่ก็ทำให้เรามีรายได้ในเดือนนี้แล้วเวลามันจะผ่านไปเร็วกว่าการมานั่งนับว่าเมื่อไรๆ แบบนี้เราจะยิ่งทุกข์ครับ
ทั้งนี้ การระบายอะไรให้สักคนฟัง ก็เป็นวิธีที่ช่วยได้ดีไม่น้อย แต่ขอย้ำว่า คนนั้นต้องเป็นคนในครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนนอกบริษัทที่ไว้ใจได้เท่านั้นนะครับ
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่แค่เราคนเดียวครับที่เจออุปสรรคในชีวิต และไม่มีใครให้กำลังใจเราได้ดีเท่าตัวเราเอง
อย่ามัวจมกับความสิ้นหวังท้อแท้ ไม่งั้นเราก็จะอยู่แต่แบบนั้น
แต่ต้องให้กำลังใจตัวเองแล้วสู้กับมัน หาทางแก้เพื่อฝ่าฟันไปให้ได้ แล้วอุปสรรคจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
JOBBKK ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะครับ
หางานด่วน เปิดรับกว่า 148,161 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
7 Steps to improve your work life balance in 2024 สร้างสมดุลชีวิตกับการทำงาน สำหรับคนทำงานยุคใหม่
สรุปข้อดี-ข้อเสีย งานประจำ VS ธุรกิจส่วนตัว อะไรดีกว่ากัน?
เลิกจ้างกะทันหัน ลูกจ้างไม่ได้ทำผิด นายจ้างต้องจ่ายอะไรบ้าง ภายในกี่วัน
ไม่มีสัญญาจ้าง กฎหมายคุ้มครองไหม ถ้าโดนเลิกจ้างกะทันหันจะฟ้องได้รึเปล่า
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
